ninja worth dying for = ตายไปก็ไม่เสียดาย
★ ★ ★
เป็นการ์ตูนที่คนรีวิวเยอะมากจนต้องไปดูให้ได้เลยฮะ เพราะพูดถึง passion ความฝัน และความหมายของการมีชีวิตอยู่
โจเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หลงใหลในการเล่นดนตรีมากๆ และพยายามตามหาเป้าหมายทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ให้กับชีวิต จนวันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุทำให้วิญญาณของเขาหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของวิญญาณ และได้ไปเจอกับ 22 (ทเวนตี้ทู) ซึ่งเป็นวิญญาณเด็กที่ไม่ยอมไปเกิดบนโลกสักที หลังจากนั้นการผจญภัยของทั้งคู่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น และทำให้มุมมองของการมีชีวิตอยู่ของทั้งคู่เปลี่ยนแปลงตลอดไป
โจและ 22 เป็นตัวแทนของคนที่ต่างกันสองประเภท โจเป็นคนที่มีสิ่งที่ชอบมากๆ และอยากมีชีวิตอยู่เพื่อสานฝันของตัวเอง ในขณะที่ 22 เป็นคนที่ไม่รู้สึกว่าตัวเองมีเป้าหมายอะไรในชีวิต แต่รักในการใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ ของตัวเองโดยที่ก็ไม่แน่ใจว่าการไม่มีความฝันเลยเนี่ยมันเป็นสิ่งผิดปกติหรือเปล่า
Soul, 2020
นินจาคิดว่าเรื่องนี้มีเนื้อหาและเรื่องราวไม่ซับซ้อน แต่เน้นการใช้จินตนาการและความสร้างสรรค์มาเล่าเรื่องออกมาในรูปแบบที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และเข้าใจได้ง่ายๆ มากกว่าฮะ โดยประเด็นหลักๆ ที่นินจาได้มาจากเรื่องนี้ก็คือ
1. ตัวตนของแต่ละคนถูกกำหนดมาแตกต่างกันตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย ความชอบ หรือความสนใจ อยู่ที่ว่าพอไปอยู่บนโลกมนุษย์แล้วจะสานต่อสิ่งที่ได้รับมาเหล่านั้นยังไง จะใช้ชีวิตในรูปแบบไหน
2. เรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงว่าทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่รู้จักหรือมีชื่อเสียง แต่สอนให้เรามีความสุขกับสิ่งที่รัก ไม่ว่าเราจะอยู่กับมันในรูปแบบไหนก็ตาม เพราะบางทีการชอบดนตรีก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าเราได้เป็นนักดนตรีระดับโลกแล้วจะมีความสุขไปกว่าเดิม สุดท้ายมันคือความรู้สึกตอนที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับดนตรี และใช้ชีวิตแต่ละวันให้คุ้มค่าต่างหาก เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเมื่อไหร่ มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขไม่ต่างกัน
3. บางคนพยายามตามหา passion ของตัวเองแต่ก็ไม่เจอสักที เพราะไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษสักอย่าง แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกเหมือนกัน เพราะเป้าหมายของคนเราไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปของความชอบหรือความสนใจเฉพาะทาง แต่อาจเป็นแค่ความสุขในการใช้ชีวิตแบบธรรมดาๆ แต่มีความหมาย และเติมเต็มสิ่งเล็กๆ ให้กันและกัน [*Spoiler alert*] อย่าง 22 ถึงแม้เขาจะไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ แต่กลับมีความสามารถในการพูดคุยกับคนอื่นแล้วทำให้เกิดแรงบันดาลใจ และมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ ธรรมดาๆ ในชีวิต ซึ่งนั่นก็ทำให้ 22 ได้มีชีวิตอย่างคุ้มค่ากับที่ได้มาอยู่บนโลกนี้แล้ว
ประโยคที่นินจาชอบที่สุดคือตอนที่ 22 ในร่างโจบอกว่า
“Is all this living really worth dying for?”
การใช้ชีวิตแบบนี้มันคุ้มค่าพอที่จะตายไปอย่างไม่เสียดายได้ไหมนะ?
22 เป็น soul ที่ไม่เคยอยากมาเกิด และกำลังสนุกกับการได้อยู่ใน the great before โดยที่ไม่ค้นพบความชอบอะไรเป็นพิเศษสักที วิญญาณของเขาเลยไม่ได้รับการเติมเต็มและไม่สามารถมาเกิดได้ แต่พอได้มาสัมผัสชีวิตบนโลก ด้วยการอยู่ในร่างของโจ เขาก็พบว่าโลกนี้น่าอยู่กว่าที่คิด การได้มาอยู่บนโลกโดยไม่ได้มีเป้าหมายหรือความชอบอะไรเป็นพิเศษไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย เพราะเขาได้รับการเติมเต็มจากการใช้ชีวิตธรรมดาๆ ในแต่ละวันให้คุ้มค่านั่นเองฮะ
บางทีการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าหรือมีความหมายนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ใหญ่โตหรือพิเศษอะไรมากมายเลย เรามีความสุขแบบไหน ก็ใช้ชีวิตแบบนั้นแหละ ยังไงเราก็เกิดมาเพื่อเติมเต็มบางสิ่งบางอย่างให้กับโลกใบนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตหรือเป็นแค่สิ่งเล็กๆ ก็ตาม
จริงๆ แล้วเป้าหมายในชีวิตอาจเป็นแค่สิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเองด้วยความคิดที่ว่า มันจะทำให้เราเป็นคนที่มีคุณค่ามากกว่าเดิม แต่บางทีคุณค่าของการมีชีวิตอยู่อาจหมายถึงแค่การดำเนินชีวิตแบบธรรมดาๆ แต่สบายใจ มีของอร่อยที่อยากกิน มีสถานที่ที่อยากไป มีคนที่อยากเจอ ได้มองท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตกดิน มีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ในแต่ละวัน แค่นี้ก็คุ้มค่ากับที่ได้มีชีวิตอยู่แล้วล่ะฮะ
[ Ninja’s language note ] :
living (n.) = การใช้ชีวิต, การดำเนินชีวิต
worth + v.ing = คุ้มค่าที่จะทำอะไรสักอย่าง (ทำไปแล้วไม่เสียดาย)
worth dying for = คุ้มค่าที่จะตายเพื่อมัน, คุ้มค่าที่จะทำแม้ต้องแลกด้วยชีวิต (ตายไปก็ไม่เสียดาย)
